skip to main
|
skip to sidebar
RAPEEPUN TOAMUANG
kindin001@hotmail.com
วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552
แนะนำตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ส่วนใดของ weblog ที่ท่านชอบมากที่สุด
คติธรรมนำชีวิต : เสาเอกแห่งชีวิต
คิดอยู่ - ฝึกให้เป็น
คิดตาย - ฝึกให้ปลง
เราต้องคิด 2 อย่าง ไม่ใช่คิดอยู่อย่างเดียวหรือคิดตายอย่างเดียว คิดด้านเดียวไม่ได้ คิดจะอยู่ต้องฝึกให้เป็น ถามว่าเป็นอะไร เป็นตามวัยของตัวเอง เป็นตามหน้าที่ของตัวเอง ต้องฝึกให้เป็น เมื่อจะคิดอยู่สู้โลกต่อไป เป็นนักเรียนต้องเป็นนักเรียนให้เป็นจริง ๆ โดยหลักของ "สุ จิ ปุ ลิ"
สุตะ - ฟัง
จินตะ - คิด
ปุจฉา - ถาม
ลิขิตะ - เขียน
เมื่อคิดจะทำงาน เรียนจบแล้วทำงานก็ต้องทำงานให้เป็น โดยหลัก อุ อา กะ สะ
อุฏฐานสัมปทา - ขยันในเรื่องการงาน
อารักขสัมปทา - ได้ทรัพย์มาแล้วสะสมทุนเอาไว้
กัลยาณมิตตตา - คบเพื่อนที่ดีอย่าไปคบคนชั่วเป็นมิตร
สมชีวิตา - ดำเนินชีวิตในคลองของศีลธรรม
แต่งงานแล้วเป็นสามีภรรยากันให้เป็น ก็ สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ
สัจจะ - ความจริงใจต่อคู่รักซึ่งจะมีต่อกัน
ทมะ - ข่มใจอย่าข่มคน
ขันติ - อดทนต่อการประกอบอาชีพการงาน
จาคะ - เสียสละทรัพย์สินซึ่งกันและกัน
เป็นพ่อแม่ให้เป็น คือ ห้ามไม่ให้ลูกทำชั่ว ให้ประพฤติดี ให้ศึกษาศิลปวิชาการ ให้ทรัพย์มรดกในเวลาที่เหมาะสม ช่วยเป็นผู้พิจารณาเรื่องคู่ครองให้
เป็นลูกให้เป็นก็คือ เมื่อท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ ทำกิจการกิจกรรมแทนท่าน รักษาวงศ์ตระกูล รักษาทรัพย์ที่ท่านให้ไว้ โดยเฉพาะชีวิตเป็นทรัพย์สินอันสำคัญ และเมื่อท่านเจ็บป่วยตายไป อุทิศส่วนกุศลไปให้ตามทางของศาสนา
"อยู่ต้องฝึกให้เป็น" ถ้าฝึกไม่เป็นแล้วอยู่ก็ไม่ดีไม่มีสุข แต่คนเราต้องคิดถึงประการต่อมา "ตายต้องฝึกให้ปลง" ฝึกปลงไว้เสียบ้าง ปลงใจว่าทุกคนเกิดมา...
เกิดมาเป็นกายก็ตายเหมือนกัน
ไม่ว่าคุณหรือฉันก็หนีกันไม่พ้น
ตายชั่วก็หนึ่งทีตายดีก็หนึ่งหน
เกิดมาทุกคนไม่พ้นความตาย
แล้วเราจะมีความสุข
การพัฒนาตนเอง
เกิดมาเป็นคนนั้นต้องทำให้ได้ 3 หน้า
...มีความคิดที่ก้าวหน้า...
...มีหัวใจที่กล้านำหน้า...
...และพัฒนาตนจนสังคมยอมรับว่าเป็นบุคคลแนวหน้า...แต่วันนี้ต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา ร้อยลี้อยู่ที่ก้าวแรก อย่างแน่นอน...
คุมจ่าย คุมจิต
การจะทำอะไรให้เป็นคนมั่นคงนั้น จะต้องคิดถึง 2 อย่าง
1. ในการดำเนินชีวิต คุมจ่ายให้อยู่
2. ในการดำเนินชีวิต คุมจิตให้อยู่
การคุมจ่ายให้อยู่ด้วยการไม่ฟุ้งเฟ้อ เป็นเรื่องสำคัญ
การคุมจิตให้อยู่ด้วยการไม่ฟุ้งซ่าน เป็นเรื่องสำคัญ
ดังนั้นในการที่เกิดมาเป็นคนนั้น อย่าฟุ้งเฟ้อ อย่าฟุ้งซ่าน
คุมจ่ายอยู่ได้ - มั่งมีศรีสุข
คุมจิตอยู่ได้ - สันติสุข
เราต้องมั่งมีศรีสุขเพราะมีเงินพอไว้ใช้สอย และสันติสุขเพราะจิตใจของเราอยู่ในความสงบด้วยสมถกัมมัฏฐาน วิปัสสนากัมมัฏฐาน อันเป็นพื้นฐานแห่งความดี
อยู่ดี มีสุข
อยู่ดี อยู่ที่ทำเป็น
มีสุข อยู่ที่คิดเป็น
ทำเป็น - คิดไม่เป็น - ไม่มีความสุข
คิดเป็นแต่ทำไม่เป็น - สุขเฉพาะใจ
อะไรก็ตามถ้าพอเหมาะ พอควร พอเพียง พอใจ คิดเป็นได้อย่างนี้ก็มีความสุข และต้องคิดว่าทุกคนเกิดมาแล้วก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีอะไรยั่งยืน
3 ไม่ - แล้วใจเป็นสุข
อนิจจัง - ไม่เที่ยง
ทุกขัง - ไม่ยั่งยืน
อนัตตา - ไม่ใช่ของเรา
ทำเป็น คิดเป็นดั่งนี้ สุขอยู่แค่เอื้อม
กำลังใจ
"การให้กำลังใจในเวลาเสียขวัญ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ทุกคนต้องการกำลังใจทั้งนั้น ยามจน ยามเจ็บ ยามจาก ต้องการกำลังใจ" เมื่อท้อถอยก็จงหาคนให้กำลังใจ และเมื่อรู้ว่าเป็นใหญ่ก็จงให้กำลังใจต่อคน
บริหารตัว บริหารงาน
การเป็นผู้บังคับบัญชา ก็ต้องรู้จักด้วยว่าคนในหน่วยงานของเรานี้ทำหน้าที่อะไร และเมื่อเราถูกเป็นหัวสมองก็อย่าหูเบา และต้องเข้าใจหน้าที่ของคนเหล่านั้น
อยู่ให้เป็นประโยชน์
เป็นลูกอยู่กับพ่อแม่ก็อย่าให้พ่อแม่น้ำตาตก
เป็นพระอย่าให้วัดรก
เป็นนกอย่าให้ต้นไม้โกร๋น
เป็นคนอย่าให้โลกช้ำ
เป็นปลาอย่าให้น้ำขุ่น
นี่คือวิธีการที่จะอยู่ในสถานที่หรือกับบุคคล
ความไม่ประมาทในชีวิต
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
ชีวิตํ พยาธิ กาโล จ เทหนิกฺเขปนํ คติ
ปญฺเจเต ชีวโลกสฺมึ อนิมิตฺตา น นายเร
"มีสิ่งที่ไม่มีนิมิตเครื่องหมายบ่งบอกว่าจะเกิดขึ้น เมื่อไหร่ในชีวิตเราอยู่ 5 ประการคือ
1. ชีวิตของเราทุกคนเกิดมาไม่มีใครรู้ว่าจะยืนยาวเท่าไหร่
2. ไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดมาแล้วจะป่วยไข้ด้วยโรคอะไร
3. กาลเวลาที่เราจะตายไม่มีใครบอกได้ทายถูกว่าจะตายเมื่อไหร่
4. สถานที่ที่เราจะตายไม่มีใครบอกได้เลยว่าจะตายที่ไหน
5. "คติ" ตายแล้วจะไปไหน ไม่มีใครบอกได้
5 ประการนี้ต้องคิดให้มาก แต่คิดแล้วอย่าท้อใจ เหตุที่ต้องคิดอย่างนี้ เพื่อจะไปสู่ความไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ถ้าเราไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต เราจะได้ขยันตลอดเวลา ขยันในหน้าที่ของเราตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตจะยืนยาวเท่าไหร่ และป่วยไข้ด้วยโรคอะไร จะตายที่ไหน จะตายเมื่อไร ตายแล้วจะไปไหน
อปฺปมตฺโต ปมตฺเตสุ สุตฺเตสุ พหุชาคโร
อพลสฺสํว สีฆสฺโส หิตฺวา ยาติ สุเมธโส.
บัณฑิตคือคนมีปัญญา ไม่ประมาทในเมื่อผู้อื่นประมาท มีสติตรึกระลึกในหน้าที่อยู่ในขณะที่ผู้อื่นเผลอไผลไม่ได้สติ ย่อมละทิ้งคนโง่ คนประมาทไป เหมือนม้าฝีเท้าจัดละทิ้งม้าไม่มีฝีเท้า
...คนที่อยู่กับคนไม่ประมาท มีแต่ความสุข มึแต่ความสดชื่น....
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
"อดีตํ นานฺวาคเมยฺย นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ
ยทตีตมฺปหีนนฺตํ อปฺปตฺตญฺจ อนาคตํ
ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ"
"อดีตมีแน่นอน แต่อย่าไปคำนึง อนาคตอย่าไปคำนวณ ทำปัจจุบันให้ดี" เพราะฉะนั้นในการดำเนินชีวิตของคนนั้น
เรื่องเรียน ......ต้องวันนี้เดี๋ยวนี้
เราทำงาน.......ต้องวันนี้เดี๋ยวนี้
เรื่องความดี.....ต้องวันนี้เดี๋ยวนี้
ขอให้ทุกท่านยึดพระพุทธพจน์ว่า
"วันนี้มี แน่นอน วันนี้ดีแน่นอน ทำไปทุกขั้นตอนของชีวิต ให้สำเร็จในวันนี้ แม้พรุ่งนี้ไม่มีสำหรับเรา เราก็มีวันนี้ที่ดีที่สุดแล้ว"
เอกสารอ้างอิง
หนังสือ
พระพิพิธธรรมสุนทร. (2551).
คติธรรมนำชีวิต เล่ม 3.
กรุงเทพมหานคร : เลี่ยงเชียง.
ความภาคภูมิใจ
รางวัลผลการเรียนดีเด่น หลักสูตรนักวิชาการศึกษา รุ่นที่ 17
เว็บไซด์ที่เกี่ยวข้องกับเรา
http://www.arit.dusit.ac.th
http://www.bizcom.dusit.ac.th
http://www.dusit.ac.th
http://www.sdu-medx4.blogspot.com/
คำขวัญจังหวัดราชบุรี
คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง
เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่
ตื่นใจถ้ำงาม ตลาดน้ำดำเนิน
เพลินค้างคาวร้อยล้าน ย่านยี่สกปลาดี
เที่ยวเมืองไทย
ภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออก
ภาคกลาง
ภาคใต้
ผู้ติดตาม
คลังบทความของบล็อก
▼
2009
(7)
►
กรกฎาคม
(1)
▼
มิถุนายน
(6)
ผลการเรียนรู้ในสัปดาห์ที่ 2 และ 3
นวัตกรรมทางการศึกษา
แนะนำตนเอง
ผลการเรียนรู้ในสัปดาห์ที่ 1
ภาพประทับใจ
ประวัติ
เกี่ยวกับฉัน
ระพีพรรณ โต๊ะเมือง
ดูโปรไฟล์ทั้งหมดของฉัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น